ตัดสินการควบรวม TRUE กับ DTAC ของ กสทช.
วันนี้ 20 ตุลาคม 2565 ตัดสินการควบรวม TRUE กับ DTAC ของ กสทช. ผมละเห็นใจแทน 5 เสือ กสทช. จริงๆ ... ไม่ใช่เรื่องเนื้อหา หลักการ กติกา หรือกฎหมาย เพราะเชื่อว่าท่านรู้เรื่องดี แม้แต่เรื่องโอกาสในการเกิดผลกระทบของการควบรวมที่อาจมีต่อประชาชน โครงสร้างตลาดที่จะเปลี่ยนไปและผลต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการในธุรกิจนี้หลังจากนี้ ไม่ว่าจะมีการรวมตัวหรือไม่รวมตัวในกรณีนี้ แต่ที่ปวดหัวคือการชั่งใจในน้ำหนักของผลกระทบต่อผู้ประกอบการทั้งสองฝ่ายและต่อผู้บริโภค รวมทั้งภาพรวมของประเทศในระยะยาว... วัดใจว่าจะเทไปทางไหนมากกว่ากัน และคำนวณต้นทุนที่ว่า ... จะให้ฝ่ายไหนฟ้อง .. ปวดหัวแทนจริง ๆ
อยากทำความเข้าใจว่า ไม่ว่าจะมองจากสูตรวัดการผูกขาดแบบใด ไม่ว่าจะเป็น Concentration ratio, HHI, หรือ Coefficient of Variation อย่างไงผลลัพธ์ก็จะแสดงให้เห็นถึงระดับการแข่งขันที่ลดลงจากการควบรวม
แต่ทั้งนี้จะเป็นละเรื่องกับการมีผลกระทบต่อราคาที่สูง ระดับการบริโภค รวมทั้ง ต่อความสามารถในการแข่งขัน เพราะในความเป็นจริงนั้น หากการรวมตัวของผู้เล่นในตลาดจะทำให้จำนวนผู้เล่นลดลง แต่มีกำลังในการแข่งขันกับรายใหญ่ได้สูสีขึ้น หากคุมไม่ให้เขา รวมหัว หรือ collude กันเพื่อ abuse โครงสร้างดีกรีการผูกขาดเพิ่มขึ้น การแข่งขันก็ยังมีอยู่และยิ่งดุเดือดขึ้นเพราะแข็งแรงพอๆ กัน รวมทั้งผลกระทบต่อผู้บริโภคก็มีน้อย และแบบนี้ผู้เล่นในประเทศก็พัฒนาบริการได้ดีขึ้น ตามทันเทคโนโลยีที่วิ่งเร็วมาก
แต่ถ้าการกำกับของ กสทช. ตามไม่ทันกลยุทธ์ทางธุรกิจที่เขารวมหัวกันแบบเนียนๆ เช่น การันตีราคาต่ำสุด (แต่ราคาสูงชนเพดานที่รัฐกำหนด) ฯลฯ ซึ่งในกรณีที่ผู้เล่นน้อยราย หากใครประกาศแบบนี้ ก็ให้รู้ว่าเขาบอกคู่แข่งว่า หากตั้งต่ำกว่านี้ เขาต้องลดราคาต่ำสู่เพราะประกาศไปแล้ว ทำให้คู่แข่งอีกรายตั้งราคาเดียวกัน แล้ว enjoy ราคาประกันที่ตั้งไว้สูง นั้น ...เรียกว่า ฮั๊วแบบเนียนๆ ไม่ผิดกฏหมายด้วย และยังมีอีกหลายกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ต้องตามให้ทัน
รอดูผลการตัดสินใจของ กสทช. และเหตุผลของการตัดสินใจว่าให้น้ำหนักอะไร ตรงไหน ในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นสักอย่างตอนนี้ ... มีแต่คำว่า โอกาสที่จะเกิด .... แต่อยากฟังว่าทำไมให้โอกาส ของ "โอกาส " หนึ่งมากกว่าอีกโอกาสหนึ่ง
